เทคนิคจากคลาส "อบรมพ่อแม่" อยากเข้าใจลูก ควรทำอย่างไร

<h1>เทคนิคจากคลาส “อบรมพ่อแม่” อยากเข้าใจลูก ควรทำอย่างไร</h1>

คำถามจากคลาส อบรมพ่อแม่ ที่อยากมาเล่ากันในนี้วันนี้คือ
“ทำไมลูกฟังเพื่อนมากกว่าพ่อแม่?”
คำถามที่พ่อแม่วัยรุ่นมักถามเสมอๆ
ครูอยากจะถามกลับว่า แล้วพ่อแม่ล่ะ ฟังลูก แบบได้ยินความต้องการจริงๆ ของลูกครั้งสุดท้ายเมื่อไร หรือเป็นเพียงการฟังแบบ “รอจะพูด” จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ “พ่อแม่ยุคใหม่” ต้องใส่ใจ และให้ความสนใจกับลูกมากๆ

.

จริงหรือไม่ ที่ครอบครัว ควรเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยที่สุดของลูกๆ

ถ้าจริงเรื่องราวทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าระหว่างแม่และเด็ก มีสายใยความปลอดภัยที่ส่งถึงกันตลอดเวลา แม่ “เข้าใจลูก” ได้ และเมื่อเวลาที่เด็กต้องการความปลอดภัย เด็กก็จะกลับบ้าน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากบ้านไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา เขาก็ต้องหาสถานที่ใหม่ เป็นที่พักพิงใจ รวมถึงคนใหม่ที่ไม่ใช่ “แม่” แล้วใครล่ะที่จะมาทดแทนความรู้สึกนั้นได้ ถ้าไม่ใช่ “เพื่อน”

.

แน่นอนที่สุด บ้านคือสถานที่ที่ให้ความปลอดภัยกับร่างกาย 

แต่คุณรู้หรือไม่ว่า ภายในจิตใจของลูกนั้น มองว่าบ้านเป็นพื้นที่ปลอดภัยหรือเปล่า
เพราะภายในจิตใจของลูกไม่ได้ต้องการสิ่งปลูกสร้างใดๆ ให้ความรู้สึกปลอดภัย แต่จะเป็นความรู้สึกห่วงใย เอาใจใส่ และให้อิสระ 

.

กลับมาถามครอบครัวเรากันดีกว่า ว่าเราเป็นบุคคลที่ปลอดภัยสำหรับลูกเราหรือไม่ เค้าอยากเข้ามาคุย อยากเข้ามาปรึกษาหรือเปล่า ถ้าเขาคุยกับเราแล้วมันไม่สนุก ไม่ได้รับอิสระ เจอแต่การตีกรอบ ต้องทำอย่างนั้น ต้องทำอย่างนี้ อย่าทำอย่างนั้น อย่าทำอย่างนี้ แล้วเค้าจะยังอยากอยู่ต่อไปไหม

.

อีกมุมหนึ่งที่ต้องคอยย้ำพ่อแม่ไว้เสมอคือ เมื่อน้องๆ โตขึ้น ได้รับการศึกษา การเรียนรู้ที่มากขึ้น เค้าย่อมอยากออกไปพบเจอคนใหม่ๆ ไปค้นคว้า ไป ค้นหาตัวเอง ไปผจญภัยกับคนใหม่ หรือที่เรียกว่า “เพื่อน” เค้าไม่ได้จะทอดทิ้ง เค้าแค่จำเป็นจะต้องปรับตัว และคุณเองก็เช่นกัน 

.

สุดท้าย อยากให้ลูกฟังเรา ก็อย่าลืมฟังลูก นี่คือคำตอบของคำถามว่า

ทำไมลูกจึงฟังเพื่อนมากกว่าพ่อแม่
ก็เพราะว่า เพื่อนฟังลูกมากกว่า จริงไหม?

.

ถ้าหากอยากเข้าใจลูก อยากให้ลูกพูดคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ต้องมาปรับจูนกันสักหน่อย!!

.

3 วิธี เข้าใจลูก ที่ พ่อแม่ยุคใหม่ ต้องรู้

1. สังเกตการณ์ 

ดูว่าเขาชอบอะไร โดยใช้ความรู้สึกที่เป็นกลาง อย่าเพิ่งเอาตัวเองไปใส่

.

2. ถามตรงๆ ในสิ่งที่เราสังเกตเห็น 

เพื่อดูว่าเขามีเหตุผล หรือมีแนวคิดอย่างไร กับพฤติกรรมที่เขากำลังทำอยู่

.

3. ให้โอกาสในการแสดงความคิด 

ชักชวนให้เขาคิดในมุมของเราบ้าง จากสิ่งที่เราคิด เขาคิดอย่างไร

.

สุดท้ายคุณต้องพร้อมเปิดใจรับฟัง และพร้อมที่จะอยู่ในโลกของเขา ซึ่งในครั้งแรกๆ อาจจะไม่ค่อยได้ผล แต่เมื่อทำต่อเนื่องไปเรื่อย เราจะกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัยที่เขาจะเข้ามาพูดคุยและแบ่งปันโลกของเขาให้เราฟัง

.

นอกจากนี้ เราก็จะสามารถบอกให้เขาได้รับรู้ว่าโลกของเราเป็นอย่างไร และได้โอกาสในการที่จะพูดคุยกันตรงไปตรงมา เสมือนเป็นเพื่อนกันได้แล้วล่ะ

.

คลาส อบรมพ่อแม่ เพื่อเข้าใจลูกด้วยการเป็น “พ่อแม่ยุคใหม่” ที่มีทักษะการฟัง และเข้าถึงลูก
https://geniusschoolthailand.com/course/onlinecourse/

.

มารู้จักกับศาสตร์ Talent Dynamics เพื่อให้เด็กๆ รู้จักตัวเอง
https://www.geniusschoolthailand.com/seminar/talent-dynamics

.

บทความโดย

นุกูล ลักขณานุกุล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า