ถ้า "ค้นหาตัวเอง" ไม่เจอ ปริญญาเฟ้อก็เหมือนเงินเฟ้อ

“ตั้งใจเรียนให้จบปริญญา จะได้มีงานมีการทำกันนะลูก”
“เรียนสูงๆ นะลูก จบมา จะได้เป็นเจ้าคนนายคน”
.
ประโยคจากพ่อแม่รุ่นก่อนที่ตอนนี้เลื่อนขั้นเป็นคุณตาคุณยายกันแล้ว
ก่อนนี้การจบปริญญาตรีคือเรื่องยิ่งใหญ่ คือเป้าหมาย คือปลายทางของเด็กทุกคนที่เติบโตขึ้น เพื่ออะไรน่ะหรือ เพราะมันคือหลักฐานที่จะช่วยให้เด็กคนนั้นเติบโตไปแล้วสามารถมีอาชีพการงานที่มั่นคงได้ และเรื่องทั้งหมดนี้กำลังจะกลายเป็นอดีตไปเสียแล้ว เพราะยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เพราะ “การศึกษายุคใหม่” ไม่จำเป็นต้องเรียนตามที่คนอื่นเรียนกันมา ไม่ต้องเรียนตามกระแส หรือตามคนส่วนใหญ่อีกต่อไป แต่การ ค้นหาตัวเอง ให้เจอเป็นเรื่องสำคัญต่างหาก
.
เคยสังเกตไหมว่า ก่อนนี้ให้จบปริญญาตรีก็สามารถเริ่มทำงานดีๆ มีตำแหน่งหน้าที่การงาน แต่มาถึงยุคนี้หลายคนจบ ป.ตรีไม่พอ แต่มันต้องต่อปริญญาโทเข้ามาอีก เพิ่มเติมเข้ามามากขึ้น เรียนเพิ่มขึ้น ใช้เวลานานขึ้น ความน่าเศร้าก็คือ ความรู้เหล่านั้น ได้เอาออกมาใช้จริงสักเท่าไร
.
ปริญญากลายเป็นค่านิยม
การมีปริญญายังคงเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นต่อสังคม เพียงแต่ว่า พ่อแม่อย่างเราก็ต้องคอยมองว่า ลูกเรานั้นเขามีเป้าหมายชีวิตอย่างไร ได้มีโอกาส ลองผิด ลองถูก กับชีวิตส่วนไหนบ้าง แต่จะมีสักกี่คนที่ได้ ค้นหาตัวเอง จนเจอจริงๆ
.
เพราะทางเลือกของการได้ปริญญานั้น มันน่าจะต้องเปลี่ยนไป จากการได้มาเพื่อเป็นใบเบิกทาง เพื่อไปสู่หน้าที่การงานอันยิ่งใหญ่ แต่เปลี่ยนเป็นเข้าไปเรียนเพื่อความรู้และประสบการณ์ และได้ใบปริญญามาแสดงว่า เป็นผู้มีความรู้พร้อมที่จะใช้ความรู้นั้นให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเอง สังคม และผู้อื่นต่อไป
.
ปริญญาสำคัญแค่ไหนกับชีวิต
สิ่งสำคัญของชีวิตคนเราเมื่อตอนเริ่มต้นเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ มันมีอะไรมากกว่าใบปริญญาอีกมากมาย กว่าจะได้ใบปริญญามาแต่ละใบใช้เวลาเท่าไร ใช้เงินทองเท่าไรเพื่อไปแลกมันมา
.
สุดท้ายมีปริญญาตั้งกี่ใบที่ไม่ได้ถูกใช้งาน เพราะหลายคนที่มุมานะเพื่อเจ้ากระดาษใบนี้ แต่สุดท้ายก็ออกมาสู่เส้นทางสายของตัวเอง ออกมาเปิดกิจการ ออกมาเป็นเจ้าของธุรกิจตามความชอบ ตามความฝัน ซึ่งจะดีกว่าไหม ถ้าเอาเรื่องพวกนี้ไปเป็นตัวตั้งต้น ค้นหาตัวเอง ให้เจอ แล้วให้ได้ปริญญาใบที่ใช่ ใบที่เหมาะกับสิ่งที่เขาต้องการ
.
หากจะลงทุน หากจะลงแรง ลองฟังเจ้าตัว เจ้าของชีวิตในอนาคตกันหน่อยว่า ต้องการหรือไม่ เจ้าใบปริญญา ถ้าต้องการก็เดินตามทางนึง ถ้าไม่ก็มีทางอื่นให้เลือกเดินมากมาย สิ่งที่ควรจะตระหนักถึงก็คือ ตัวเด็กเคยได้มีโอกาสได้เลือกเองหรือยัง ได้ลองเองหรือยัง เพื่อให้ปริญญาทุกใบนั้นมีคุณค่า สมกับที่ลงทุน ลงเวลาเพื่อให้ได้มันมา ไม่ใช่แค่กระดาษใบหนึ่งที่แขวนเอาไว้ข้างฝา ให้ฝุ่นจับเท่านั้นเอง
.
มาชวนเด็กๆ ค้นหาตัวเอง ด้วยศาสตร์ Talent Dynamics
https://geniusschoolthailand.com/course/talent-dynamics/
.
บทความโดย
นุกูล ลักขณานุกุล