
เราได้ยินคำพูดแบบนี้กันมาหลายครั้งว่า
เด็กๆ ยังไม่จำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องเงิน
เด็กยังเด็กอยู่เลย แค่เรียนหนังสือก็พอ
ความเชื่อนี้ เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ประเทศไทย
มีหนี้ครัวเรือนในปี 2562 สูงมาก
เฉลี่ยถึง 3 แสนกว่าบาท ต่อ 1 ครัวเรือน
.
สาเหตุของปัญหาครอบครัวแตกแยก
และครอบครัวไม่มีความสุข คือ
“ปัญหาด้านการวางแผนการเงิน”
ขึ้นเป็นอันดับ 1 ตลอดมา ในทุกๆ การทำวิจัย
และทุกๆ โพลของแต่ละสถาบัน
.
จากเรื่องนี้ เราคงเห็นได้ชัดเจนว่า
เรื่อง “เงิน” เป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้ทั้งครอบครัว
และควรถูกปลูกฝังอย่างจริงจังตั้งแต่เด็กๆ
.
ในโรงเรียน เด็กๆ เรียนแค่บวก ลบ คูณ หาร
จากนั้นก็ไปเรียนสูตรคณิตศาสตร์ ที่ยากขึ้น
แต่ใช้ไม่ได้ในชีวิตประจำวัน
.
การเรียนรู้ ทำความเข้าใจ เรื่องของ ‘เงิน’
ไม่มีโรงเรียนที่ไหนสอน ไม่มีตำราสอนเด็กๆ
แต่กลับข้ามช็อตเป็นวิชา ‘บัญชี’ ที่ยากยิ่ง
ในระดับมหาวิทยาลัย ที่พอเห็น เดบิต เครดิต
ก็ต้องเข็ดขยาดกันไป
.
แต่เอาเข้าจริงๆ แม้แต่นักบัญชีการเงิน
บางครั้งยังบริหารเงินไม่เป็น เพราะเข้าใจแต่
เดบิต เครดิต และสูตรทางไฟแนนซ์ยากๆ
.
วินัยการเงิน พื้นฐานความมั่งคั่ง ไม่ก่อหนี้จน
ดังนั้น การเรียนรู้เรื่องเงิน คือ การเข้าใจว่า
เงินคืออะไร
ควรจัดการอย่างไร
ทำอย่างไรไม่ให้ตกเป็นทาสของเงิน
.
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ “วินัย”
.
การเข้าใจเรื่องเงินอย่างเดียว ยังไม่พอ
พ่อแม่ จะต้องฝึกวินัยให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก
ยิ่งเข้าใจการเงิน มีวินัยทางการเงิน
เด็กก็จะมีโอกาสเป็นผู้ที่ร่ำรวย
ไม่ตกเป็นทาสของเงินเมื่อตอนโต
.
เงิน!! ในแต่ละช่วงอายุของเด็กๆ
ควรรู้อะไรบ้าง ??
.
เพื่อให้ลูกจะได้เข้าใจ รายรับ รายจ่าย
การอดออม คุณค่าของเงิน การตั้งเป้าหมาย
ความลำบากในการหาเงิน กำไร ขาดทุน
การลงทุน
.
เมื่อลูกคุณโตขึ้น ก็จะไม่เป็นคนที่หยิบโย่ง
ใช้เงินเกินตัว ไม่เข้าใจเงิน สร้างปัญหาหนี้สิน
แทนที่จะสร้างความมั่งคั่ง