
อัตราการเกิดปี 2564 เด็กเกิดใหม่ราว 5.4 แสนคน ลดลงมากกว่าครึ่ง จากที่เคยเกิดเมื่อ 50 ปีก่อน
.
แสดงให้เราจะเห็นว่า อัตราเด็กเกิดใหม่ต่ำมากเป็นประวัติการณ์ และปี 2564 เป็นปีแรกที่จำนวนเด็กเกิดน้อยกว่าจำนวนคนตาย
โดยอัตราคนตายในปี 2564 มีจำนวน 5.6 แสนคน เท่ากับว่า ประเทศไทยมีอัตราการประชากรเกิดหักลบอัตราการตาย ติดลบ!!
.
ในปี พ.ศ. 2505 อัตราการเกิดต่อผู้หญิง 1 คน เท่ากับ 6.15
ในปี พ.ศ. 2562 อัตราการเกิดต่อผู้หญิง 1 คน เท่ากับ 1.15
สังเกตได้ว่า อัตราการเกิดลงลดกว่า 5 เท่า
.
จากที่มีเด็กเกิดปีละ 1,220,000 คน ลดลงต่ำกว่าปีละ 300,000 คน
จนล่าสุดเหลือเพียง 540,000 คน เท่านั้น
.
อัตราการเกิดของเด็กไทยที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
กระทบระบบการศึกษาทั้งระบบชัดเจนมาก สถานศึกษาต่างๆ ทะยอยปิดตัวลง ทั้งของภาครัฐและเอกชน
.
สถานศึกษาเอกชน เริ่มมีการแข่งขันกันดึงเด็กในทุกครั้งที่เปิดเทอม เจ้าของสถานศึกษาเครียด
หวั่นกระทบยอดค่าใช้จ่าย และภาระที่ต้องแบกรับ เพราะจำนวนเด็กสมัครเรียนลดลงเรื่อยๆ
.
สถานศึกษาในสังกัด สพฐ. ที่มีจำนวนนักเรียนต่ำกว่า 120 คน มีมากถึง 50% ของโรงเรียนทั้งหมด
หรือกว่า 15,000 โรงเรียนทั่วประเทศ ที่ทาง สพฐ. ต้องตัดสินใจในการควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก เข้ากับโรงเรียนขนาดใหญ่
.
แต่วิธีนี้ทำให้นักเรียนในที่ห่างไกล ขาดโอกาสในการศึกษา เนื่องด้วยไม่สามารถเดินทางไปเรียนตามโรงเรียนใหญ่ๆ ที่ตัวเมืองได้
ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ขาดแคลนโรงเรียนสำหรับเด็กๆ ทำให้เด็กขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษามากขึ้นไปอีก
.
ส่วนโรงเรียนเอกชนที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ก็ทะยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน
ในอีก 30 ปีข้างหน้า เด็กจะมีจำนวนลดลงกว่าครึ่ง
จะต้องมีสถานศึกษาปิดตัวอีกเท่าไร?
และจะทำให้เด็กๆ ขาดโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาไปอีกเท่าไร?
.
ถึงแม้ประเทศไทย จะทุ่มงบประมาณในด้านการศึกษาเป็นจำนวนมาก แต่การศึกษากลับล้าหลัง และด้อยคุณภาพ
แรงงานที่เข้าสู่ระบบงานในสาขาอาชีพต่างๆ ถูกทดแทนด้วยแรงงานข้ามชาติ และหุ่นจักรกล มากขึ้นเรื่อยๆ
.
ถึงเวลาแล้ว ที่สถานศึกษาจะต้องหันมาสร้างการเปลี่ยนแปลง
ปรับระบบ และรูปแบบการศึกษาใหม่ทั้งระบบ
.
พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
– แม้จำนวนเด็กน้อยลง ก็สามารถวางบทเรียนเฉพาะให้เด็กแต่ละคน
ไม่ต้องเรียนแบบ Mass ที่ทุกคนต้องเรียนแบบเดียวกันเหมือนแต่ก่อน
.
– ครูแทนที่จะสอนๆๆ หน้าห้องเรียน
เปลี่ยนบริบทเป็น “ครูฟา” และ “ครูโค้ช” มีทักษะ Facilitator และ Coach
สร้างการเรียนรู้ให้เด็กๆ เป็นนักเรียนรู้ตลอดชีวิต และสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กเป็นตัวเอง
.
– เปลี่ยนหลักสูตรจากสาระแกนกลาง
เป็น “หลักสูตร Competency based curriculum”
.
– เปลี่ยนการอบรมวิชาการ
เป็นการอบรมเชิงปฎิบัติ
.
– เปลี่ยนโรงเรียนที่เป็นห้องเรียนสี่เหลี่ยม
กลายเป็น ให้ทุกที่เป็นห้องเรียนได้
.
– เปลี่ยนเวลาเรียน 8:00 – 15:30 น.
เป็นเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา
.
– เปลี่ยนเป้าหมายการสอบแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตาย
เป็นเป้าหมายการใช้ชีวิต “ค้นหาตัวเอง” ช่วยเหลือกันอย่างมีความสุข
.
ถึงเวลาแล้ว ที่เราทุกคนต้องเปลี่ยน
มาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงโรงเรียน ไปกับ Genius School Thailand
เพื่อมอบโอกาสให้เด็กไทยของเรา มีการศึกษาที่ดี ไม่แพ้ชาติใดในโลกกันค่ะ
.
ทักมาพร้อมกับแนะนำโรงเรียนได้เลย
▶️ LINE : @geniusschoolth