เด็ก GEN Z ที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจตัวตน และวิธีฝึก EF


“ทำไมลูกติดมือถือขนาดนี้ ถ้าไม่มีเน็ตจะเป็นอย่างไร?”
คำตอบคือ “ตายสนิท”
.
เพราะเด็ก GEN Z เกิดมาพร้อมกับการมีมือถือใช้ในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องปกติ การไม่มีมือถือจึงเป็นเรื่องที่จินตนาการไม่ออกเลยว่า ชีวิตจะอยู่ได้อย่างไร ซึ่งแตกต่างกับคน GEN X หรือ GEN Y ต้นๆ ที่เคยผ่านช่วงชีวิตที่ยังไม่มีมือถือ หรืออินเตอร์เน็ตยังโบราณอยู่ เลยมีชีวิตออฟไลน์เป็นอยู่บ้าง นี่ไม่ใช่เรื่องเกินจริง แต่เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องเข้าใจ และรู้จักวิธีการส่งเสริม EF (Executive Function) แทนการบ่น หรือดุว่าเด็กๆ
.
ครอบครัวเรามีกี่ GEN
– Silent Generation
เกิดปี 2471 -2488 ยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง จนจบสงครามโลกครั้งที่สองพอดี
อายุ 94 – 77 ปี วัยของปู่ย่าตายายไปจนคุณทวด
.
– Baby Boomer
เกิดปี 2489 – 2507 ยุคหลังสงครามโลกมีประชากรเกิดมาก
อายุ 76 – 58 ปี ประชากรวัยเกษียณและใกล้เกษียณ มีจำนวนมากที่สุด
.
– GEN X
เกิดปี 2508 – 2523 เป็นยุคกลางเก่ากลางใหม่
อายุ 57 – 42 ปี เป็นวัยที่เป็นพ่อแม่ของคน Gen Z เป็นส่วนใหญ่
.
– GEN Y (Millennial)
เกิด 2524 – 2539 เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ทิศทางยังไม่แน่นอน
อายุ 41 – 26 ปี
.
– GEN Z
เกิดปี 2540 – 2555 ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยี
อายุ 25 – 10 ปี
.
– GEN Alpha
เกิดปี 2556 – ปัจจุบัน เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี 100%
อายุ 9 ขวบลงมา
.
บ้านที่มีหลายวัยอยู่ด้วยกัน
บางครั้งก็เป็นเรื่องสนุกที่ปู่ย่าตาทวด เล่าเรื่องในอดีตแสนนานมาแล้วให้ลูกหลานที่ฟังราวกับเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ที่คนเราจะใช้ชีวิตอยู่แบบนั้นได้อย่างไรกัน
.
แต่บางครั้งก็ไม่สนุกเมื่อความแตกต่างของ GEN กลายเป็นปัญหา โดยเฉพาะ GEN X กับ GEN Z ในสถานะพ่อแม่และลูกนั่นเอง ปัญหาของสอง GEN นี้หนักหนากว่า Baby Boomer ขึ้นไปกับ GEN Y ลงมา เนื่องจาก Baby Boomer คือคนในวัยเกษียณหรือใกล้เกษียณแล้ว ไม่ได้มีความรับผิดชอบโดยตรงกับลูก ส่วนใหญ่จะเลี้ยงหลานแบบตามใจ ไม่เห็น ไม่คิดว่า การติดมือหรือติดสื่อจะเป็นปัญหาอะไรมากมาย อาจด้วยวัยที่ต้องการพักผ่อนหลังจากตรากตรำทำงานหนักมาตลอดชีวิตแล้วก็ได้
.
ในขณะที่พ่อแม่วัย GEN X คือคนตรงกลางที่รับเอาวัตนธรรม ความคิดแบบคนรุ่นพ่อแม่ แต่ปัจจุบันอยู่ในวัยทำงานที่ต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงอย่างหนัก ความต้องการรักษาสิ่งที่ตัวเองเคยได้ผ่านประสบการณ์แบบนั้นมา กลายเป็นความกดดันสำหรับลูก GEN Z ที่ไม่ได้เข้าใจบริบทสังคม วัฒนธรรมยุคพ่อแม่ แถมเกิดมาในยุคข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยี ที่ทำให้รับรู้เรื่องราวได้หลายแง่มุมมากกว่า จนทำให้กลายเป็นความขัดแย้งระหว่างกัน ยิ่งพ่อแม่ที่คาดหวังจะให้ลูก GEN Z ใช้ชีวิตเจริญรอยตามพ่อแม่มากเท่าไหร่ ยิ่งกลายเป็นปัญหา สร้างรอยร้าวมากขึ้นเรื่อย ๆ
.

GEN Z คืออะไร?
GEN Z เป็นเด็กที่เกิดบนยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางข้อมูลข่าวสาร เทคโนโลยี มีอุปกรณ์สื่อสารอย่างสมาร์ทโฟนและอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เข้ามามีบทบาทอย่างมาก
เกิดในปี พ.ศ. 2540 – 2555
อายุ 25 – 10 ปี ปัจจุบันเป็นกลุ่มวัยเรียน วัยรุ่น
.
สิ่งที่เด็ก GEN Z เติบโตมา
– GEN Z เป็นเด็กยุค “ดิจิตอล” คือการเติบโตมาพร้อมกับการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารทุกชนิดได้ทันที ทำให้เสพติดข้อมูลข่าวสารอยู่ตลอดเวลา ไม่ชอบการตกข่าว
.
– มือถือหรือสมาร์ทโฟน ถือเป็นอวัยวะ ไม่ใช่อุปกรณ์สื่อสาร ห่างตัวไม่ได้ เงินหายยังยืมคนอื่นได้ แต่มือถือหายเหมือนแขนขาด
.
– มีความต้องการ Connect เชื่อมโยงกับคนอื่นในสังคมแบบออนไลน์อยู่เกือบตลอดเวลา การติดต่อสื่อสารไม่จำกัดขอบเขตสัญชาติ วัฒนธรรม มีความเปิดกว้างสูง
.
– เป็นมนุษย์หลายงาน การชอบความรวดเร็วและสนุกกับการเห็นข้อมูลเยอะๆ ทำให้มีความสามารถในการทำหลายๆ งานได้พร้อมๆ กัน เช่น เปิดหลายหน้าจอเวลาทำงานหรือทำการบ้าน
.
– สนใจความเห็นของคนอื่นสูง พูดตรงๆ คือทั้งความเห็นของคนอื่นที่มีต่อตัวเองและความเห็นของคนที่มีต่อคนอื่นๆ ด้วย ด้วยการเติบโตมากับข้อมูล ความคิดเห็นต่างๆ ก็ถือเป็นข้อมูลประเภทหนึ่งที่อยากจะรู้ โดยเฉพาะความเห็นที่เกี่ยวกับตัวเองจะแคร์เป็นพิเศษ
.

ปัญหาที่พบในเด็ก GEN Z
– ความอดทนต่ำ สมาธิค่อนข้างสั้น ผลที่เกิดมาจากยุคที่ข้อมูลมาพร้อมกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็วมาก ทำให้มีความอดทนต่ำไปด้วย การต้องรอเกิน 1 นาที จึงยาวนานเหมือนเป็นชั่วโมง ทำอะไรชอบความรวดเร็วเป็นหลัก
.
– ชอบการติดต่อผ่านสื่ออื่นมากกว่าการพบปะ พูดคุยกันตัวต่อตัวจริง ด้วยความเคยชินในการติดต่อสื่อสารแบบสั้นๆ ผ่านภาพหรือตัวหนังสือ ทำให้ไม่คุ้นชินกับการต้องคุยกับคนตัวต่อตัวจริงๆ มักเลี่ยงด้วยการเล่นมือถือแทน
.
– ชอบการใช้ชีวิตเสมือนจริง มีความสนุกกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
.
– มีคำถาม “ทำไม?” อยู่ตลอดเวลา บางครั้งก็ไม่ได้ตั้งใจจะต่อต้าน แต่ความที่เกิดในยุคข้อมูลข่าวสารเต็มไปหมด การบอก อะไรสักอย่างให้เชื่อโดยไม่ได้มีเหตุผลสนับสนุนที่ถูกต้องหรือยอมรับได้มากพอ ทำให้เกิดคำถามอยู่ตลอดเวลาและพร้อมจะตรวจสอบข้อมูล
.
– มีแนวโน้มจะเลือกงานที่ได้รับค่าตอบแทนดีกว่างานที่สนใจจริง เนื่องจากเห็นโอกาสอยู่ตลอดเวลา อะไรที่น่าสนใจเข้ามาก็อยากคว้าไว้
.
– ไม่ยึดติดกับองค์กรหรืออะไร ไม่ชอบอยู่ที่เดิมๆ ซ้ำๆ นานๆ ต้องการอะไรใหม่ อิทธิพลจากการติดเกม เกิดมากับเกมออนไลน์การต้องไปสู่เลเวลต่อไป มีความสำคัญ ถ้าเล่นเกมนี้จบแล้ว เบื่อแล้ว ชนะแล้ว ก็ไม่อยากเล่นซ้ำ ต้องการความท้าทายใหม่ๆ ชอบอะไรใหม่ๆ มากกว่า
.

สิ่งที่พ่อแม่ควรฝึกฝน “EF” ให้เด็ก GEN Z
– ลดการเร็วเกินไป จะเรียกว่า ฝึกความอดทนก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ความเร็วในที่นี้ จะเป็นการตัดสินใจอะไรแบบเร็วเกินไป เลือกทำ เลือกพูดไวไปจนก่อให้เกิดอันตรายหรือผิดพลาดได้สูง ขาดความรอบคอบ การแชร์อะไรเร็วเกินไปไม่เช็คข้อมูล การตอบกลับด้วยความไวก่อนพิจารณาข้อดี-ข้อเสียให้ถ้วนถี่
.
– การฝึก EF (Executive Function) ฝึกสมาธิ ฝึกทำอะไรช้าๆ จดจ่อและสังเกต อย่างการเล่นต่อ จิ๊กซอตัวเล็กๆ 500 ชิ้น ก็จะช่วยเพิ่มความละเอียด ลดความต้องการให้เสร็จเร็วไปได้มาก ชวนเล่นเกมประเภทที่ต้องใช้ความละเอียดก่อนตัดสินใจบ้างอย่าปล่อยให้เล่นแต่เกมใช้ความไวไม่สนใจใครอย่างเดียว
.
– ช่วยให้ลูก ค้นหาตัวเอง ความถนัด เพื่อสร้างความสำเร็จในแบบตัวเองได้เร็วขึ้น เด็กๆ ยุคข้อมูลข่าวสารมีแนวโน้มจะไหลไปเรื่อยกับสิ่งตรงหน้าสูง ในโลกดิจิตัล มีอะไรเข้ามานำความสนใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้หลุดโฟกัสได้ง่าย รวมไปถึง การเห็นคนอื่นมีงานบางอย่างได้เงินดี มีโอกาสนั้น โอกาสนี้น่าลองไปหมดอยู่ตลอดเวลา ทำให้เสียเวลาไปกับการทดลองเรื่อยเปื่อยได้ไม่มีที่สิ้นสุด พ่อแม่ควรช่วยลูกไม่ให้จับจดไปเรื่อยๆ หาก ค้นหาตัวเอง เจอแล้ว ควรส่งเสริมให้จดจ่อเพื่อพัฒนาศักยภาพ โดยให้เรื่องอื่นๆ เป็นงานอดิเรกดีกว่า
.
– ฝึกวินัยด้วย EF (Executive Function) ที่ดี ทำสิ่งต้องทำให้เสร็จทีละอย่าง สืบเนื่องมาจากสมาธิที่ถูกรบกวนได้ง่ายจากการอยู่ในโลกดิจิตัลตลอดเวลา แม้ว่าจะบอกว่าเป็นความสามารถในการทำงานได้หลายๆ อย่างพร้อมกันก็ตาม แต่ความเป็นจริงแล้ว งานหลายๆ อย่างที่ทำอยู่อาจจะไม่มีงานไหนเสร็จสมบูรณ์ดีจริงๆ สักอย่างก็ได้ ควรฝึกให้ทำงานเสร็จเป็นเรื่องๆ ไป เสร็จแบบมีสมบูรณ์จริงๆ จะดีกว่าปล่อยให้ทำหลายๆ อย่าง แต่ไม่ดีสักอย่าง จนเป็นนิสัย
.
– ปิดการรับรู้ภายนอก มาสำรวจภายในบ้าง ข้อนี้อาจจะเป็นเรื่องยากที่สุด แต่เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับเด็กๆ (จริงๆ แล้วก็สำหรับพ่อแม่ที่ติดมือถือหนักด้วยเหมือนกัน) ใช้การสวดมนต์ นั่งสมาธิ การไปวัด เป็นช่วงได้ปิดโลกภายนอกเป็นระยะสั้นๆ เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้าน แต่ใช้ความถี่มาช่วยฝึก เด็ก GEN Z มีแนวโน้มจะอยู่กับข้างนอกตลอดเวลา ไม่ได้เคยสำรวจโลกภายในตัวเองบ้าง โดยเฉพาะการสนใจเรื่องความคิดเห็นของคนอื่นจนมาอิทธิผลต่อตัวเองมากไป ต้องทำให้โลกภายในของลูกแข็งแรง เป็นที่ยึดของตัวเองยามต้องเจอปัญหาให้ได้
.
คลาส อบรมพ่อแม่ เพื่อเข้าใจเด็ก GEN Z และเด็กยุคใหม่
https://geniusschoolthailand.com/course/onlinecourse/
.
คลาส Talent Dynamics เพื่อเข้าใจการ ค้นหาตัวเอง ของเด็กๆ
https://geniusschoolthailand.com/course/talent-dynamics/
.
คลาส EF (Executive Function) เพื่อการพัฒนาและส่งเสริมเด็กๆ
https://geniusschoolthailand.com/course/ef/