"Active Learning" ของโรงเรียนฟินแลนด์ คือแบบไหน ทำไมใครๆ ก็อยากเรียน
การทำห้องเรียนป็น Active Learning ของ “โรงเรียนฟินแลนด์” เข้ามีวิธีการอย่างไร ทำไมถึงขึ้นชื่อด้านการศึกษา ว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จากที่ทีมครูใหญ่ของเราได้ไปดู “โรงเรียนฟินแลนด์” มา เขามีองค์ประกอบสำคัญ 3 อย่าง ที่ทำให้การศึกษาของประเทศเขาพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ…
.
1. ครู
เป็นแกนหลักในการดูแล และเข้าใจในศักยภาพเด็กๆ สามารถจัดการเรียนการสอนได้สอดคล้องกับความต้องการของเด็กได้ จัดห้องเรียนเป็น Active Learning ได้ ไม่ยื่นสอนให้เด็กอ่านแต่ตำรา
.
2. พ่อแม่
มี โรงเรียนพ่อแม่ ทำให้เข้าใจในหลักการของครู สื่อสารกับครูตลอดเวลา เด็กมีปัญหายังไง ทั้งพ่อแม่และครูมีความเข้าใจตรงกัน ร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมเด็กๆ ได้จริง
.
3. สังคมโดยรอบ และรัฐบาล
สนับสนุนโรงเรียนในการดูแลเด็กๆ เด็กจะทำกิจกรรมอะไร สังคมโดยรอบก็พร้อมสร้างสภาพแวดล้อม ช่วยให้เด็กปลอดภัยมากขึ้น
.
หน่วยงานรัฐบาลฟินแลนด์ ประสานงานกับโรงเรียนเพื่อเด็กๆ
ในแต่ละปีหน่วยงานรัฐของฟินแลนด์ จะเข้ามาวางแผนร่วมกันกับโรงเรียนถึงสิ่งที่ “โรงเรียนฟินแลนด์” ต้องการว่ามีอะไรที่ขาดอยู่ ต้องการอะไรเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กๆ อีกบ้าง
.
นอกจากนี้รัฐบาลยังมีข้อมูลของเด็กที่เกิดในแต่ละปีจากโรงพยาบาล และเด็กมีสถานะอย่างไร เช่น ปกติ พิการ หรือเป็นเด็กพิเศษ และจะติดตามตลอดจนเมื่อเด็กเริ่มเข้าสู่วัยเรียน ต้องไปโรงเรียนก็จะติดตามต่อว่าเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน เข้าโรงเรียนอะไร หน่วยงานรัฐก็เข้ามาคุยกับโรงเรียนด้วยข้อมูลว่า ปีนี้จะมีเด็กมาเพิ่มกี่คน เป็นเด็กพิเศษกี่คน หรือเด็กพิการกี่คน
.
แล้วรัฐบาลประเมินร่วมกับทางโรงเรียนฟินแลนด์ว่า ทางโรงเรียนพร้อมรับเด็กไหม หากมีเด็กพิเศษเข้ามา ถ้าไม่พร้อม จะจัดให้พร้อมได้อย่างไร ต้องมีอุปกรณ์หรือสื่อการสอนอะไร สร้างพื้นที่การเรียนรู้แบบไหน แล้วโรงเรียนมีครูดูแลเด็กพิเศษไหม ถ้าไม่ จะจัดหามาเพิ่ม เพื่อให้ที่ตรงนี้มีสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนเด็กได้มากที่สุด
.
“ครูฟินแลนด์” ไม่ต้องทำรายงานส่ง
ที่ฟินแลนด์ครูไม่ต้องทำรายงานใดๆ ส่งรัฐบาลเลย นี่คือสิ่งสำคัญที่ทำให้ครูมีเวลาอยู่กับเด็ก ให้เวลาคุณภาพกับห้องเรียนได้เต็มที่ คิดสร้างสรรค์การสอนใหม่ๆ คิดสร้างสรรค์จัด Active Learning ได้ตลอดเวลา
.
หากพิจารณาแล้ว จะต่างกับครูไทยอย่างมากที่มีแต่ทำรายงาน ทำงานเอกสารเต็มไปหมด จนแทบไม่มีเวลาให้ห้องเรียน แถมเมื่อมีหน่วยงานรัฐเข้ามาเยี่ยมโรงเรียนที ก็เน้นแต่ประเมินตรวจสอบ คนที่เหนื่อยหนักในการทำเอกสารส่งก็คือ “ครูไทย”
.
อยากพัฒนาการศึกษาไทยแบบฟินแลนด์
หลายๆ อย่างในประเทศนี้ เรายอมรับว่า เราเปลี่ยนไม่ได้ แต่เราเริ่มเปลี่ยนสิ่งที่เราทำได้ก่อน แล้วถ้าเราอยากพัฒนาให้การศึกษาบ้านเราดีและทัดเทียมกับเขา ต้องทำอะไรบ้าง
.
Genius School Thailand จึงสร้าง 3 เสาหลักขึ้นมา
1. ครอบครัว
เรามี “โรงเรียนพ่อแม่” ที่จะปรับพื้นฐานให้พ่อแม่เข้าใจ หลักการสนับสนุนลูกอย่างถูกวิธี
.
2. ครู
เราสร้างครูที่ Certified Genius Educator ที่สามารถใช้ระบบ Genius System ได้จริง และพร้อมที่จะส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กๆ
.
3. Genius School Community
เครือข่ายผู้ปกครอง ครู โรงเรียนรูปแบบใหม่ และนักธุรกิจทั่วประเทศ ที่คอยสนับสนุนให้ระบบ Genius System นี้แข็งแรง
.
หากคุณต้องการเริ่มต้นเข้ามารู้จักกับเรา และอยู่ใน โรงเรียนพ่อแม่ ของเรา
ขอเชิญเข้ามาสู่ห้องเรียนแรก “Genius System” ไปพร้อมกันกับเรา
https://geniusschoolthailand.com/course/onlinecourse/
.
เพื่อ “เข้าใจ” ภาพรวมทั้งหมดในการ ค้นหาตัวเอง ของเด็กๆ
ดึงศึกยภาพเด็กของเด็ก ด้วยการสร้างห้องเรียนแห่งความสุข
.
สมัครแล้วมาพบกัน คุณจะเข้าใจวิธีการสอนเด็กแบบฟินแลนด์ว่าทำอย่างไร
แล้วคุณจะรู้ว่า คุณสามารถสนับสนุนเด็กๆ ได้มากกว่าที่คุณคิด!!
.
ติดต่อสอบถามเราเพิ่มเติมได้ที่
LINE : @geniusschoolth
