ไม่ต้องส่งลูกเข้า โรงเรียนนานาชาติ ก็ "สร้างลูกเก่ง" ระดับโลกได้
ไม่ต้องส่งลูกเข้า โรงเรียนนานาชาติ ก็ “สร้างลูกเก่ง” ระดับโลกได้

ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา โรงเรียนนานาชาติมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากไม่ถึง 100 แห่ง เป็นเกือบ 200 แห่ง ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติขยายออกไปในเกือบทุกเขตในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ แสดงถึงกระแสความต้องการส่งบุตรหลานให้ได้เรียนมีเพิ่มขึ้นสูงมาก โรงเรียนเองก็ปรับตัวเอาหลักสูตรที่ผู้ปกครองสนใจเข้ามาเพื่อกระตุ้นการส่งบุตรหลานเข้าเรียน เช่น หลักสูตร Montessori, หลักสูตรของเคมบริดจ์, หลักสูตรอังกฤษ, หลักสูตรอเมริกา, หลักสูตรตามแนวคิดเรกจิโอ เอมิเลีย (REGGIO) เป็นต้น

.

จากแนวคิดที่ต้องการให้บุตรหลานใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว พ่อแม่ ผู้ปกครอง จึงส่งบุตรหลานให้เรียนในโรงเรียนนานาชาติตั้งแต่ยังเล็ก แม้ว่าจะต้องแลกมากับรายจ่ายที่สูง มากกว่าโรงเรียนไทยธรรมดาหลายเท่า โดยคิดว่าเป็นการลงทุนสำหรับอนาคต 

.

ทั้งที่ความจริงแล้ว โรงเรียนนานาชาติแต่ละแห่งมีคุณภาพทางการศึกษาต่างกัน การเรียนในโรงเรียนนานาชาติไม่ได้เป็นเครื่องการันตีอนาคตที่ดีกว่า จะประสบความสำเร็จมากกว่า หรือสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าด้วยซ้ำ

.

โรงเรียนนานาชาติ มีอัตราค่าเทอมสูงสุด

ระดับเตรียมอนุบาล

เทอมละ 276,000 บาท

หรือปีละ  552,000 บาท

.

ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

เทอมละ 501,500 บาท

หรือปีละ 1,003,000 บาท

.

ค่าเทอมโรงเรียนนานาชาติที่น้อยลง

ในระดับ อนุบาล ถึง มัธยม

อยู่ที่ปีละ 150,000 – 300,000 บาท

(ข้อมูลปี 2019-2020)

.

แม้ว่าจะไม่สามารถตัดสินได้ว่า โรงเรียนค่าเทอมสูงที่สุด จะมีคุณภาพการศึกษาดีที่สุด แต่ความจริงคือ รายจ่ายสำคัญของโรงเรียน คือ เงินเดือนการจ้างคุณครูต่างชาติ แน่นอนว่า โรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมสูง มักจ้างครูเจ้าของภาษาที่เรียนจบตรงสายมาเป็นครูเจ้าของวิชาให้กับนักเรียน ครูต่างชาติที่มีคุณภาพ มีวุฒิการศึกษาสูง ย่อมต้องได้รับค่าตอบแทนสูงเช่นกัน

.

ขณะที่โรงเรียนนานาชาติที่ค่าเทอมถูกลงมา อาจจะเลือกครูต่างชาติที่เป็นเชื้อสายเอเชีย หรือแอฟริกา เช่น ฟิลิปปินส์ หรือแอฟริกาใต้ อาจจะเป็นเจ้าของภาษาตัวจริง แต่ไม่ได้จบทางการสอน หรือมีวุฒิตรงสาย แต่ค่าจ้างต่ำกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

.

เมื่อส่งลูกเรียนนานาชาติ แต่กลับไม่ได้ภาษาอังกฤษดังที่ตั้งใจ เป็นเคราะห์กรรมของพ่อแม่ที่ทำงานหนัก เพื่อจ่ายค่าเทอมให้ลูกเรียนในโรงเรียนนานาชาติ

.

อยากให้ลูกได้ภาษาอังกฤษ แต่กลับเป็นว่าแย่กว่าเด็กในโรงเรียนไทยข้างบ้านเสียอีก

จะเป็นไปได้อย่างไร? 

ทำไมอยู่นานาชาติแล้วไม่ได้ภาษา? 

.

ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ โรงเรียนนานาชาติมีสัดส่วนการรับนักเรียนไทย และนักเรียนต่างชาติที่ต่างกัน โรงเรียนนานาชาติในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในอัตราก้าวกระโดด แต่คนต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในไทยไม่ได้เติบโตก้าวกระโดดตามไปด้วย โรงเรียนนานาชาติบางแห่ง จึงเต็มไปด้วยเด็กไทยหัวดำ เต็มไปหมด เมื่อเด็กไทยที่อยู่กับครอบครัวคนไทย 100% ย่อมชินกับการใช้ภาษาไทยมากกว่า แม้ในโรงเรียนจะมีกฎเกณฑ์ห้ามใช้ภาษาไทย แต่ก็คงห้ามยาก ถ้าเด็กๆ เกือบทั้งห้องเป็นคนไทยทั้งนั้น

.

อีกปัจจัยที่ทำให้คุณภาพภาษาอังกฤษไม่ได้ดีมาจากคุณภาพของคุณครูด้วย ไม่ใช่ว่าครูต่างชาติทุกคนจะใช้ภาษาได้ดี เหมือนภาษาไทย คนไทยทุกคนพูดภาษาไทย เขียนได้อ่านออก แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้ภาษาไทยได้อย่างถูกหลักภาษา

.

เด็กโรงเรียนนานาชาติก็ใช้ชีวิตเหมือนเด็กโรงเรียนไทย ถ้าเข้าไปดูรายวิชากันจริงๆ แล้ว จะพบว่า รายวิชาต่างๆ ที่โรงเรียนนานาชาติใช้ ไม่ว่าจะหลักสูตรสหรัฐ หรืออังกฤษก็ตาม มีการเรียนเป็นรายวิชาเหมือนกับไทย เพราะจะว่าไป หลักสูตรโรงเรียนไทยก็ศึกษารับเอาหลักสูตรของสหรัฐมา รับมาทั้งรายวิชา และการประเมินผลที่การสอบข้อสอบปรนัย (แบบกาตัวเลือก) มีเพียงส่วนน้อยที่เรียนแบบยุโรป วัดผลแบบอัตนัย (ข้อเขียน)

.

จุดมุ่งหมายของการเรียน ไม่ว่าจะเรียนโรงเรียนนานาชาติ หรือโรงเรียนไทย เด็กต้องเรียน เพื่อทดสอบระดับเหมือนกัน ในความหมายก็คือ เด็กนานาชาติเกรด 12 หรือมัธยม 6 หมุดต่อไป คือ IGCSE/TOEFL เด็กไทยก็คือการสอบเข้ามหาวิทยาลัยเป็นหัวใจสำคัญ หรือเป็นเป้าหมายของทั้งเด็กและพ่อแม่ด้วย

.

เป้าหมายของการศึกษา ควรมิใช่มีแค่การสอบได้คะแนนดี ความสำคัญของการศึกษาจริงๆ ควรทำให้เด็กได้รู้จักศักยภาพของตนเอง ค้นหาเอง เจอจริงๆ และทิศทางที่ตัวเองต้องการจะไป คนที่ ค้นหาตัวเอง เจอแล้ว และรู้ชัดเจนว่า ต้องการเดินทางไปเส้นไหน ความฝันของตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเองว่า หากพัฒนาตัวเองอย่างเต็มร้อย จะสามารถไปสู่เป้าหมายได้ !!

.

ภาษาอังกฤษ อาจเป็นตัวช่วยที่ทำให้สื่อสารกับคนทั่วโลกได้ง่ายขึ้น แต่ปัจจุบัน วุ้นแปลภาษาของโดราเอมอนก็มีอยู่จริงแล้วในโลกนี้ ไม่ว่าภาษาใดก็สามารถคุยกันได้รู้เรื่อง สามารถสื่อสารด้วยภาษาตัวเองผ่านตัวกลางแบบเรียลไทม์

.

โรงเรียนที่เน้นการให้โอกาสเด็กๆ ได้รู้จัก “ค้นหาความถนัด” ค้นหาตัวเอง ค้นหาศักยภาพ และความฝันในชีวิต พร้อมให้สนับสนุนเด็กให้ได้ทำตามฝัน โดยไม่ประเมิน หรือตัดสินความฝันของเด็กๆ โรงเรียนแบบนี้เป็นโรงเรียนที่ดีสำหรับลูกคุณแน่นอน

.

อนาคตมีโอกาสต่างๆ ที่เข้ามาอยู่ตลอดเวลา เด็กที่ไม่ “รู้จักตัวเอง” ดีพอ ไม่มีความฝัน ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนของตัวเอง จะหยิบฉวยสิ่งที่ไม่เหมาะกับตัวเองเข้ามา หรือทำตามกระแส ตามคนอื่นได้ง่าย และสุดท้ายไม่ได้มีชีวิตอย่างที่อยากเป็น

.

ฝากถึงพ่อแม่ที่คิด จะกัดฟันลงทุนการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ ที่ราคาพอเอื้อมถึงให้ลูก ว่าจะเป็นใบเบิกทางได้ภาษาอังกฤษให้ลูกมีอนาคตที่ดี เพราะในอนาคตอันใกล้แค่ภาษาที่ดีอาจจะไม่ช่วยอะไรมาก เท่ากับการได้ ค้นหาตัวเอง และรู้ศักยภาพในตัวเองที่จะพัฒนาต่อเนื่องเต็มที่มากกว่า

.

โรงเรียนใดก็ตามที่ตอบโจทย์นั้นจะโรงเรียนไทย โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนต่างจังหวัด โฮมสคูล (Homeschool) ไมโครสคูล (Microschool) ได้ทั้งหมด

.

อย่าลืม !!

การศึกษาไม่ใช่แค่การสอบได้คะแนนดี 

และภาษาอังกฤษ ก็ไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

.

คลาส Talent Dynamics สำหรับ อบรมพ่อแม่ และ อบรมครู เพื่อสนับสนุนให้เด็กๆ ได้ ค้นหาตัวเอง
https://geniusschoolthailand.com/course/talent-dynamics/

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า