ชอบเทคนิคการเป็น Facilitator และ Talent Dynamics พอเอามาปรับใช้ในห้องเรียน เด็กสนุกสนาน มีความสุข บรรยากาศห้องเรียนเปลี่ยนไป เด็กกล้าเข้าหาเรามากขึ้นด้วย ทักษะ EF ก็เอามาปรับในการคิดเกมในการสอนเด็กๆ เพื่อพัฒนาทักษะสมองให้ครบรอบด้าน

ดีใจที่ได้เจอห้องเรียนที่สร้างกำลังใจ เนื้อหาแน่นๆ สอนแบบไม่กั๊ก ดูแลผู้เรียนทุกคนให้ได้นำไปใช้จริง กำลังลงวิชาต่อไป มีหลายคลาสมากที่น่าสนใจ พ่อแม่ คุณครู ผู้ดูแลเด็ก ไม่ควรพลาดค่ะ

ลบภาพการอบรมเก่าๆ ที่น่าเบื่อทิ้งไปเลยค่ะ อบรมกับ Genius School Thailand สนุกมาก วิทยากรสอนดี ไม่น่าเบื่อแม้เป็นออนไลน์ค่ะ

เรียนแล้วได้วิธีการสอนใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ เหมือนเรามา Relearn และ Unlearn ครูนัท ครูบี๊ สอนเข้าใจง่าย แต่ละ Part มี Workshop ให้ลงมือทำตลอด เป็นพื้นที่ปลอดภัย ได้ประสบการณ์จากเพื่อนๆ ในคลาสด้วยค่ะ

วิทยากรสอนสนุก เป็นกันเอง เนื้อหาที่สอนไม่ใช่การเอาทฤษฎีมาพูด แต่นำไปสู่การปฎิบัติจริงได้ เพื่อให้เราเป็นครูในแบบ Facilitator ใช้จัดการสอนเด็กๆ ในห้องเรียนได้ คุ้มค่ามากๆ ค่ะ

เรียนรู้การจัดการเรียนการสอนแบบฟินแลนด์ ใช้สถานการณ์จริงมาสอนเด็ก ไม่ใช่สอนแบบท่องจำ หรือแค่ในหนังสือ ทุกอย่างรอบตัวเรียนรู้ได้ เช่น การทอดไข่ เชื่อไหมครับว่า แค่ทอดไข่ยังมีผลลัพธ์ต่างกันเลย จะเป็นไข่เจียว ไข่ดาว ไข่ดาวสุกหมด นอกสุกในไม่สุก ให้เด็กๆ คิดว่าเกิดจากอะไรบ้าง แล้วเขาก็ออกแบบไข่ที่อยากจะกินเอง เด็กๆ ตื่นเต้น Exciting กับสิ่งที่เจอ ถ้าเป็นแบบนี้จะทำอย่างไรต่อ เพื่อไปต่อยอดสู่ชีวืตจริงของเด็กๆ ด้วยครับ

เรียนแล้วได้กลุ่มเพื่อนๆ ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยของเราเพิ่มมาอีกพื้นที่นึง สนุกกับทุก Workshop แลกเปลี่ยนมุมมอง และความรู้สึกร่วมกัน เราเลยได้เห็นวิธีการสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่จะไปสร้างให้เด็กๆ ด้วย

ได้เข้าใจว่า “Teacher is a Facilitator” เป็นสะพานเชื่อมพ่อแม่และผู้เรียน "ครู" คือ กุญแจสำคัญในบริบทของการเรียนรู้เสมอ เข้าใจธรรมชาติ ความสนใจ ความถนัดในการเรียนรู้ของผู้เรียนแต่ละคน สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ และสามารถจัดได้ทุกที่ เพราะทุกๆ ที่คือพื้นที่การเรียนรู้ของเด็กได้

ได้นำความรู้มาใช้ในการเลี้ยงลูก และเด็กนักเรียนที่สอน ให้เขาเป็นเด็กดี มีความสุข ใช้ชีวิตในยุค 4.0 ได้ด้วยตนเอง และได้เทคนิคที่สามารถเปิดใจพูดคุยกับเด็กๆ ได้อย่างตั้งใจ ฟังให้ในสิ่งที่เขาไม่พูดได้ ออกแบบการเรียน เล่น ปฏิบัติ ตลอดจนเรียนรู้สิ่งต่างๆ ไปพร้อมกันอย่างสนุกสนาน

นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปใช้ในการพัฒนาตนเอง เพื่อเป็นผู้ที่สนับสนุนการเรียนรู้ ดึงศักยภาพของเด็กๆ จากการสร้างพื้นที่ปลอดภัย และเป็นเพื่อนเดินเคียงข้างเด็กๆ เป็นได้มากกว่าแค่ครูที่สอนปกติ

ได้เข้าใจว่า เด็กทุกคนมีความอัจฉริยะในตัวเองที่ต่างกัน และสามารถพัฒนาเป็นอัจฉริยะในทางของเขาได้ เด็กมีความอยากเรียนรู้ตลอดเวลา สิ่งสำคัญคือต้องสามารถดึงศักยภาพของเด็กออกมาให้ได้ และเราต้องสร้างพื้นที่ปลอดภัยการเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ ในแต่ละแบบ ลดการสร้างภัยคุกคามให้เด็กๆ ต้องเริ่มจากการให้เด็กเข้าใจ พัฒนาและดูแลตัวเองได้ และสามารถสร้างคุณค่าให้แก่สังคม

เมื่อเข้าใจ เราก็จะเข้าถึงพัฒนาการของเด็ก เข้าถึงความคิด เข้าถึงตัวตน ดังนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับครูในยุคนี้คือทักษะการฟัง ต้องรู้จักฟังโดยไม่ตัดสิน ไม่รีบตอบโต้ แต่ให้สังเกตว่าจริงๆ ว่าเด็กเป็นคนแบบไหน และเราควรใช้วิธีใดในการสื่อสารกับเด็กแต่ละคน

ครูชอบเนื้อหาทุกบท ทันสมัยกับปัจจุบัน และสามารถเอาใช้ในห้องเรียนได้จริง ใช้กับเด็กๆ ได้ ครูก็จะพัฒนาการเรียนการสอนต่อไป