Active Learning แบบฟินแลนด์ เป็นอย่างไร?
ก่อนอื่นอยากให้ ‘จินตนาการ’ ถึงประเทศที่ได้รับการจัดอันดับว่า เป็นประเทศที่มีการศึกษาดี เป็นอันดับต้นๆ ของโลก หน้าตาสภาพบ้านเมือง ประชากรในประเทศจะเป็นแบบไหน คงจะสะอาดสะอ้าน เป็นระเบียบ ทำตามกฎหมาย ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส และมีความสุข เพราะคุณภาพการศึกษาที่ดี นำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี
.
ใช่แล้ว ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ก็คือ “ประเทศฟินแลนด์”
นอกจากการศึกษาดีเป็นอันดับต้นๆ แล้ว UN ก็จัดให้ฟินแลนด์ เป็นประเทศที่มี “ความสุข” มากที่สุดในโลกอีกด้วย
.
ทำไมชาวฟินแลนด์ถึงมีความสุข?
พลเมืองได้รับสิ่งสนับสนุนสำคัญๆ ในการใช้ชีวิตจากรัฐบาลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายได้ การช่วยเหลือทางสังคม อายุคาดเฉลี่ยที่ดี เสรีภาพในการใช้ชีวิต ความมีน้ำใจ และสภาพปลอดคอร์รัปชั่น
.
นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการช่วยแม่คลอดบุตร ให้เงินลูก แล้วก็ลูกเรียนฟรี พร้อมมี ‘กล่องทารก หรือ Baby Box แจกให้สำหรับเด็กแรกเกิดอีกด้วย
.
สวัสดิการทุกอย่างถูกออกแบบ และใส่ใจมาเป็นอย่างดี และสิ่งหนึ่งที่รัฐบาลฟินแลนด์มุ่งเน้นมานาน รวมถึงพัฒนาอย่างต่อเนื่องจริงจังหลายปี คือเรื่องของ ‘การศึกษา’ เพราะเขามีความเชื่อที่ว่า เมื่อพลเมืองได้รับการศึกษาที่ดี ทุกอย่างในประเทศก็จะดีด้วยตามมาด้วย
.
เขาใช้เวลายาวนานถึง 50 ปี ในการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ใช้ศาสตร์ต่างๆ วิจัยและพัฒนาการสอน และครูอย่างต่อเนื่อง และกล้าที่จะสร้างระบบการเรียนรู้ที่แตกต่างจากประเทศอื่นๆ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์แบบวัฏจักรลูกโซ่ คือ เมื่อเด็กโตขึ้น ก็เป็นพ่อแม่ เป็นครูที่เข้าใจดีในระบบการศึกษาที่ต้องมุ่งกระทำต่อเด็กรุ่นถัดไป
.
แล้วครูของฟินแลนด์สอนเด็กแบบไหน?
เพื่อให้เด็กได้รับความรู้ และความสุข
โรงเรียนฟินแลนด์ จัดสภาพห้องเรียน ที่มีจำนวนเด็กต่อ ครูฟา เป็น 5:1 ทำให้ครูฟาดูแลเด็กทั่วถึง เข้าใจ เข้าถึงเด็กทุกคน และเมื่อเลื่อนชั้น ไม่เปลี่ยนครู เด็กยังอยู่กับครูคนเดิม ซึ่งครูฟาก็จะเข้าใจในพัฒนาการ และศักยภาพของเด็ก รู้ถึงสิ่งที่ควรกระตุ้นต่อ ติดตาม เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสมจริงๆ
.
ครูฟินแลนด์ เป็นครูฟา ครูโค้ช จะเข้าใจในตัวตนของเด็ก รู้ว่าเด็กถนัดอะไร สร้างพื้นที่ปลอดภัยในการเรียนรู้ได้ สามารถจัดกิจกรรมการสอน Active Learning ที่เหมาะสม เน้น หลักสูตรฐานสมรรถนะ Competency based Curriculum มากกว่าสาระวิชา
.
คำว่า ครูฟา หมายถึงว่า จะไม่ได้เป็นเพียง “ครู” ผู้ให้ความรู้ แต่จะเป็น “ฟา” (Facilitator) ผู้อำนวยการให้เกิดการเรียนรู้ไปด้วย สิ่งสำคัญที่ ครูฟา ต้องมีก็คือ
1. เปิดโอกาสให้เด็กๆแสดงความคิด และมองหาจังหวะสอดแทรกการเรียนรู้ไปในประสบการณ์ของเด็กๆ
2. เปิดโลกอันกว้างใหญ่ในการเข้าถึงข้อมูลของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้นคว้าจากอินเตอร์เนท หรือสื่อออนไลน์ต่างๆ
3. เป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กับเด็กๆ และจำเป็นต้องปล่อยให้เด็กๆพลาด เพื่อการเรียนรู้ เพราะการพลาดคือส่วนหนึ่งของการประสบความสำเร็จในการเรียน
.
การเป็น ครูฟา เป็นความท้าทายนึงที่เกิดขึ้นกับครูทุกคน แต่ผลลัพธ์ที่จะเกิด คือเด็กๆ จะได้เรียนรู้วิธีการเรียนรู้ และในตอนท้ายเด็กๆ ก็จะกลายเป็น “นักเรียนรู้ตลอดชีวิต” ซึ่งนั่นจะทำให้ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน เด็กๆ เหล่านั้นก็จะอยู่รอดอย่างแข็งแรง ปลอดภัย และมีความสุขได้เพราะเค้าเข้าใจตัวเองนั้นเอง
.
หากจะให้ประเทศไทย มีการศึกษาที่ดีแบบนี้ เราต้องเริ่มสร้างครูฟาแบบครูที่โรงเรียนฟินแลนด์ ที่เข้าใจเด็กๆ ให้ได้จริงเสียก่อน
.
Genius School Thailand จึงพัฒนาโปรแกรมสร้างครู เป็นครูฟา ครูโค้ช ที่มีทักษะการเป็น Facilitator และ Coach ให้กับเด็กๆ เพื่อสามารถออกแบบการเรียนรู้ตามความถนัดของเด็ก ที่มีความแตกต่างกัน จัดห้องเรียน และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ได้จริง และเหมาะสม
.
สนใจ หลักสูตรฐานสมรรถนะ Competency based Curriculum ที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของครูทั้งโรงเรียน ให้เป็น ครูฟา ครูโค้ชยุคใหม่
https://geniusschoolthailand.com/school-founder-courses/
.
บทความโดย
พัสชนันท์ คงวณิชกิจเจริญ
